เทคนิคการเลี้ยงไก่เนื้อต้นทุนต่ำ ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง (อ่าน 8499 ครั้ง) |
วันที่ : 20 ก.ค. 2553, 9:19:53 น. |
หมวดหมู่ : ปศุสัตว์ กลุ่ม : สัตว์ปีก |
การเลี้ยงไก่เนื้อ เป็นอาชีพเกษตรสาขาหนึ่งที่สร้างรายได้ให้ผู้เลี้ยงสามารถเลี้ยงเอง หรือรับจ้างเลี้ยงก็ได้ เพราะตลาดมีความต้องการไก่เนื้ออยู่ตลอดเวลา บริษัทเอกชนจะจ้างเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อเป็นจำนวนมาก เนื้อไก่เป็นอาหารที่ให้โปรตีนแก่ร่างกาย มีราคาถูก นิยมนำมาประกอบอาหารรับประทานกันทั่วไป นอกจากนี้มูลไก่ยังสามารถทำปุ๋ยคอกได้เพราะมีธาตุอาหารสูง |
การเลี้ยงไก่เนื้อ สร้างโรงเรือนแบบหน้าจั่ว มุงด้วยแฝกขนาดกว้าง 14 เมตร ยาว 100 เมตร ต้องมีการถ่ายเทอากาศได้ดี ฝาโรงเรือนเป็นมุ้งตาข่ายเพื่อกันลม กันหนู และงูได้ ปรับพื้นอัดดินให้แน่นและเรียบ แล้วโรยปูนขาวเพื่อกันเชื้อโรค และแมลง ปูพื้นด้วยแกลบแล้วพ่นยาฆ่าเชื้อ พักเล้าไว้ประมาณ 10 วัน แล้วติดตั้งที่ให้อาหารและน้ำ การเตรียมอาหารสำหรับไก่เนื้อ 1000 ตัว ช่วง 1-28 วัน ใช้อาหาร 38 ถุง ช่วง 29-42 วัน ใช้อาหาร 66 ถุง ขั้นตอนการเลี้ยงไก่เนื้อ 1. นำไก่เนื้อเกรด A อายุ 1 วัน มาเลี้ยงในเล้ากก ควบคุมอุณหภูมิโดยใช้หลอดไฟ 100 แรงเทียนหรือจะใช้แก๊สอบ เพื่อให้ลูกไก่ได้รับความอบอุ่น ก่อนนำไก่ลงเล้ากก หว่านสเม็คไทต์ผง บางๆให้ทั่วเล้ากกและผสม ไคโตซาน มิกซ์ฟีด ในอัตราส่วน 10 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต อัตราการใช้พื้นที่เลี้ยง ขึ้นกับอุณหภูมิอากาศ เช่น ฤดูร้อน 32 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 7.5-8 ตัว/ตร.ม. ฤดูฝน 25 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 8.0-8.5 ตัว/ตร.ม. ฤดูหนาว ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 9.5-10 ตัว/ตร.ม เมื่อครบ 10 วัน ให้วัคซีนป้องกันโรคนิวคาสเซิล และควรให้ลูกไก่ได้รับโปรตีนไม่น้อย 21 % ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 สัปดาห์ โดยช่วงนี้เริ่มใช้สเม็คไทต์ผง คลุกเคล้าในอัตราส่วน 3 % ของอาหาร เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อราในอาหาร ที่สร้างสารพิษที่ เรียกว่า สารอะฟลาท๊อกซิน นอกจากนั้นในวัตถุดิบอาหารสัตว์บางครั้งอาจมีสารพิษตกค้างจากสารเคมีที่ใช้ เช่น ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช ซึ่งปะปนในอาหารสัตว์ เมื่อสัตว์กินเข้าไป จะทำให้ตับถูกทำลาย หรือเป็นมะเร็งที่ตับได้ แต่ในไก่สามารถสังเกตได้ว่าไก่จะถ่ายเหลว หรือท้องเสีย ซึ่งเป็นสาเหตุการตายส่วนหนึ่งของไก่เนื้อ การป้องกันอีกวิธีหนึ่งคือการผสมไคโตซาน มิกซ์ฟีด ในอัตรา 10 ซีซี. น้ำ 20 ลิตร ให้ไก่กินช่วยกระตุ้นการกินอาหาร เสริมประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร ช่วยให้การเจริญดีขึ้น เมื่อไก่อายุครบ 48-50 วัน น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 2.2 กิโลกรัม พยายามควบคุมไม่ให้ไก่ตายเกิน 5 % ผู้เลี้ยงจะได้ค่าเลี้ยงเป็นผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ อายุไก่ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสูง เนื่องการเป็นช่วงเร่งการเจริญเติบโต ทั้งการเพิ่มอาหารที่เปอร์เซ็นต์โปรตีนสูง พื้นที่ความหนาแน่นของจำนวนไก่ การแย่งอากาศ ความเครียด และการสะสมของแอมโมเนีย เนื่องจากพื้นคอกไม่ได้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนถ่าย ซึ่งสาเหตุนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไก่ตายช่วงใกล้จะจำหน่าย ปัญหานี้การจัดการคือเพิ่มปริมาณการหว่านสเม็คไทต์ให้ถี่ขึ้น การสังเกตจากกลิ่นแอมโมเนียในโรงเรือน โดยการนั่งยองๆ ก้มหัวลงให้ใกล้ระดับพื้นคอก สังเกตจุดที่มีกลิ่นเหม็นแล้วทำการหว่านสเม็คไทต์ทับ **หมายเหตุ หากนำมูลไก่ที่หว่านโรยด้วยสเม็คไทต์ไปใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ จะเป็นปุ๋ยละลายช้าที่มีซิลิก้า ช่วยให้พืช แข็งแกร่ง ต้านทาน โรค แมลงได้ดีขึ้น เคล็ดลับ การเลี้ยงไก่เนื้อให้คุณภาพดี ต้องรักษาความสะอาด การสุขาภิบาลและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม เพราะไก่จะเสี่ยงกับการเป็นโรคหวัดได้ง่าย ระวังอย่าให้เสียงดังรบกวนไก่เนื้อ เพราะอาจทำให้ไก่ตกใจและตายได้ อาจใช้การเปิดเสียงเพลงเบาๆ เพื่อไม่ให้ไก่ตกใจกับเสียงภายนอกมากเกินไป เขียนและรายงานโดย พิพัฒนะ เครือชาลี ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com |
เทคนิคการเลี้ยงไก่เนื้อต้นทุนต่ำ ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง (อ่าน 8499 ครั้ง) |
วันที่ : 20 ก.ค. 2553, 9:19:53 น. |
หมวดหมู่ : ปศุสัตว์ กลุ่ม : สัตว์ปีก |
การเลี้ยงไก่เนื้อ เป็นอาชีพเกษตรสาขาหนึ่งที่สร้างรายได้ให้ผู้เลี้ยงสามารถเลี้ยงเอง หรือรับจ้างเลี้ยงก็ได้ เพราะตลาดมีความต้องการไก่เนื้ออยู่ตลอดเวลา บริษัทเอกชนจะจ้างเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อเป็นจำนวนมาก เนื้อไก่เป็นอาหารที่ให้โปรตีนแก่ร่างกาย มีราคาถูก นิยมนำมาประกอบอาหารรับประทานกันทั่วไป นอกจากนี้มูลไก่ยังสามารถทำปุ๋ยคอกได้เพราะมีธาตุอาหารสูง |
การเลี้ยงไก่เนื้อ สร้างโรงเรือนแบบหน้าจั่ว มุงด้วยแฝกขนาดกว้าง 14 เมตร ยาว 100 เมตร ต้องมีการถ่ายเทอากาศได้ดี ฝาโรงเรือนเป็นมุ้งตาข่ายเพื่อกันลม กันหนู และงูได้ ปรับพื้นอัดดินให้แน่นและเรียบ แล้วโรยปูนขาวเพื่อกันเชื้อโรค และแมลง ปูพื้นด้วยแกลบแล้วพ่นยาฆ่าเชื้อ พักเล้าไว้ประมาณ 10 วัน แล้วติดตั้งที่ให้อาหารและน้ำ การเตรียมอาหารสำหรับไก่เนื้อ 1000 ตัว ช่วง 1-28 วัน ใช้อาหาร 38 ถุง ช่วง 29-42 วัน ใช้อาหาร 66 ถุง ขั้นตอนการเลี้ยงไก่เนื้อ 1. นำไก่เนื้อเกรด A อายุ 1 วัน มาเลี้ยงในเล้ากก ควบคุมอุณหภูมิโดยใช้หลอดไฟ 100 แรงเทียนหรือจะใช้แก๊สอบ เพื่อให้ลูกไก่ได้รับความอบอุ่น ก่อนนำไก่ลงเล้ากก หว่านสเม็คไทต์ผง บางๆให้ทั่วเล้ากกและผสม ไคโตซาน มิกซ์ฟีด ในอัตราส่วน 10 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต อัตราการใช้พื้นที่เลี้ยง ขึ้นกับอุณหภูมิอากาศ เช่น ฤดูร้อน 32 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 7.5-8 ตัว/ตร.ม. ฤดูฝน 25 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 8.0-8.5 ตัว/ตร.ม. ฤดูหนาว ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 9.5-10 ตัว/ตร.ม เมื่อครบ 10 วัน ให้วัคซีนป้องกันโรคนิวคาสเซิล และควรให้ลูกไก่ได้รับโปรตีนไม่น้อย 21 % ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 สัปดาห์ โดยช่วงนี้เริ่มใช้สเม็คไทต์ผง คลุกเคล้าในอัตราส่วน 3 % ของอาหาร เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อราในอาหาร ที่สร้างสารพิษที่ เรียกว่า สารอะฟลาท๊อกซิน นอกจากนั้นในวัตถุดิบอาหารสัตว์บางครั้งอาจมีสารพิษตกค้างจากสารเคมีที่ใช้ เช่น ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช ซึ่งปะปนในอาหารสัตว์ เมื่อสัตว์กินเข้าไป จะทำให้ตับถูกทำลาย หรือเป็นมะเร็งที่ตับได้ แต่ในไก่สามารถสังเกตได้ว่าไก่จะถ่ายเหลว หรือท้องเสีย ซึ่งเป็นสาเหตุการตายส่วนหนึ่งของไก่เนื้อ การป้องกันอีกวิธีหนึ่งคือการผสมไคโตซาน มิกซ์ฟีด ในอัตรา 10 ซีซี. น้ำ 20 ลิตร ให้ไก่กินช่วยกระตุ้นการกินอาหาร เสริมประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร ช่วยให้การเจริญดีขึ้น เมื่อไก่อายุครบ 48-50 วัน น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 2.2 กิโลกรัม พยายามควบคุมไม่ให้ไก่ตายเกิน 5 % ผู้เลี้ยงจะได้ค่าเลี้ยงเป็นผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ อายุไก่ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสูง เนื่องการเป็นช่วงเร่งการเจริญเติบโต ทั้งการเพิ่มอาหารที่เปอร์เซ็นต์โปรตีนสูง พื้นที่ความหนาแน่นของจำนวนไก่ การแย่งอากาศ ความเครียด และการสะสมของแอมโมเนีย เนื่องจากพื้นคอกไม่ได้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนถ่าย ซึ่งสาเหตุนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไก่ตายช่วงใกล้จะจำหน่าย ปัญหานี้การจัดการคือเพิ่มปริมาณการหว่านสเม็คไทต์ให้ถี่ขึ้น การสังเกตจากกลิ่นแอมโมเนียในโรงเรือน โดยการนั่งยองๆ ก้มหัวลงให้ใกล้ระดับพื้นคอก สังเกตจุดที่มีกลิ่นเหม็นแล้วทำการหว่านสเม็คไทต์ทับ **หมายเหตุ หากนำมูลไก่ที่หว่านโรยด้วยสเม็คไทต์ไปใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ จะเป็นปุ๋ยละลายช้าที่มีซิลิก้า ช่วยให้พืช แข็งแกร่ง ต้านทาน โรค แมลงได้ดีขึ้น เคล็ดลับ การเลี้ยงไก่เนื้อให้คุณภาพดี ต้องรักษาความสะอาด การสุขาภิบาลและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม เพราะไก่จะเสี่ยงกับการเป็นโรคหวัดได้ง่าย ระวังอย่าให้เสียงดังรบกวนไก่เนื้อ เพราะอาจทำให้ไก่ตกใจและตายได้ อาจใช้การเปิดเสียงเพลงเบาๆ เพื่อไม่ให้ไก่ตกใจกับเสียงภายนอกมากเกินไป เขียนและรายงานโดย พิพัฒนะ เครือชาลี ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com |
เทคนิคการเลี้ยงไก่เนื้อต้นทุนต่ำ ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง (อ่าน 8499 ครั้ง) |
วันที่ : 20 ก.ค. 2553, 9:19:53 น. |
หมวดหมู่ : ปศุสัตว์ กลุ่ม : สัตว์ปีก |
การเลี้ยงไก่เนื้อ เป็นอาชีพเกษตรสาขาหนึ่งที่สร้างรายได้ให้ผู้เลี้ยงสามารถเลี้ยงเอง หรือรับจ้างเลี้ยงก็ได้ เพราะตลาดมีความต้องการไก่เนื้ออยู่ตลอดเวลา บริษัทเอกชนจะจ้างเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อเป็นจำนวนมาก เนื้อไก่เป็นอาหารที่ให้โปรตีนแก่ร่างกาย มีราคาถูก นิยมนำมาประกอบอาหารรับประทานกันทั่วไป นอกจากนี้มูลไก่ยังสามารถทำปุ๋ยคอกได้เพราะมีธาตุอาหารสูง |
การเลี้ยงไก่เนื้อ สร้างโรงเรือนแบบหน้าจั่ว มุงด้วยแฝกขนาดกว้าง 14 เมตร ยาว 100 เมตร ต้องมีการถ่ายเทอากาศได้ดี ฝาโรงเรือนเป็นมุ้งตาข่ายเพื่อกันลม กันหนู และงูได้ ปรับพื้นอัดดินให้แน่นและเรียบ แล้วโรยปูนขาวเพื่อกันเชื้อโรค และแมลง ปูพื้นด้วยแกลบแล้วพ่นยาฆ่าเชื้อ พักเล้าไว้ประมาณ 10 วัน แล้วติดตั้งที่ให้อาหารและน้ำ การเตรียมอาหารสำหรับไก่เนื้อ 1000 ตัว ช่วง 1-28 วัน ใช้อาหาร 38 ถุง ช่วง 29-42 วัน ใช้อาหาร 66 ถุง ขั้นตอนการเลี้ยงไก่เนื้อ 1. นำไก่เนื้อเกรด A อายุ 1 วัน มาเลี้ยงในเล้ากก ควบคุมอุณหภูมิโดยใช้หลอดไฟ 100 แรงเทียนหรือจะใช้แก๊สอบ เพื่อให้ลูกไก่ได้รับความอบอุ่น ก่อนนำไก่ลงเล้ากก หว่านสเม็คไทต์ผง บางๆให้ทั่วเล้ากกและผสม ไคโตซาน มิกซ์ฟีด ในอัตราส่วน 10 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต อัตราการใช้พื้นที่เลี้ยง ขึ้นกับอุณหภูมิอากาศ เช่น ฤดูร้อน 32 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 7.5-8 ตัว/ตร.ม. ฤดูฝน 25 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 8.0-8.5 ตัว/ตร.ม. ฤดูหนาว ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ควรปล่อยลูกไก่ 9.5-10 ตัว/ตร.ม เมื่อครบ 10 วัน ให้วัคซีนป้องกันโรคนิวคาสเซิล และควรให้ลูกไก่ได้รับโปรตีนไม่น้อย 21 % ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 สัปดาห์ โดยช่วงนี้เริ่มใช้สเม็คไทต์ผง คลุกเคล้าในอัตราส่วน 3 % ของอาหาร เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อราในอาหาร ที่สร้างสารพิษที่ เรียกว่า สารอะฟลาท๊อกซิน นอกจากนั้นในวัตถุดิบอาหารสัตว์บางครั้งอาจมีสารพิษตกค้างจากสารเคมีที่ใช้ เช่น ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช ซึ่งปะปนในอาหารสัตว์ เมื่อสัตว์กินเข้าไป จะทำให้ตับถูกทำลาย หรือเป็นมะเร็งที่ตับได้ แต่ในไก่สามารถสังเกตได้ว่าไก่จะถ่ายเหลว หรือท้องเสีย ซึ่งเป็นสาเหตุการตายส่วนหนึ่งของไก่เนื้อ การป้องกันอีกวิธีหนึ่งคือการผสมไคโตซาน มิกซ์ฟีด ในอัตรา 10 ซีซี. น้ำ 20 ลิตร ให้ไก่กินช่วยกระตุ้นการกินอาหาร เสริมประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร ช่วยให้การเจริญดีขึ้น เมื่อไก่อายุครบ 48-50 วัน น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 2.2 กิโลกรัม พยายามควบคุมไม่ให้ไก่ตายเกิน 5 % ผู้เลี้ยงจะได้ค่าเลี้ยงเป็นผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ อายุไก่ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสูง เนื่องการเป็นช่วงเร่งการเจริญเติบโต ทั้งการเพิ่มอาหารที่เปอร์เซ็นต์โปรตีนสูง พื้นที่ความหนาแน่นของจำนวนไก่ การแย่งอากาศ ความเครียด และการสะสมของแอมโมเนีย เนื่องจากพื้นคอกไม่ได้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนถ่าย ซึ่งสาเหตุนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไก่ตายช่วงใกล้จะจำหน่าย ปัญหานี้การจัดการคือเพิ่มปริมาณการหว่านสเม็คไทต์ให้ถี่ขึ้น การสังเกตจากกลิ่นแอมโมเนียในโรงเรือน โดยการนั่งยองๆ ก้มหัวลงให้ใกล้ระดับพื้นคอก สังเกตจุดที่มีกลิ่นเหม็นแล้วทำการหว่านสเม็คไทต์ทับ **หมายเหตุ หากนำมูลไก่ที่หว่านโรยด้วยสเม็คไทต์ไปใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ จะเป็นปุ๋ยละลายช้าที่มีซิลิก้า ช่วยให้พืช แข็งแกร่ง ต้านทาน โรค แมลงได้ดีขึ้น เคล็ดลับ การเลี้ยงไก่เนื้อให้คุณภาพดี ต้องรักษาความสะอาด การสุขาภิบาลและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม เพราะไก่จะเสี่ยงกับการเป็นโรคหวัดได้ง่าย ระวังอย่าให้เสียงดังรบกวนไก่เนื้อ เพราะอาจทำให้ไก่ตกใจและตายได้ อาจใช้การเปิดเสียงเพลงเบาๆ เพื่อไม่ให้ไก่ตกใจกับเสียงภายนอกมากเกินไป เขียนและรายงานโดย พิพัฒนะ เครือชาลี ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com |
การเลี้ยงไก่เนื้อ | |||||
การเลี้ยงไก่เนื้อ เป็นอาชีพเกษตรสาขาหนึ่งที่สร้างรายได้ให้ผู้เลี้ยงสามารถเลี้ยงเอง หรือรับจ้างเลี้ยงก็ได้ เพราะตลาดมีความต้องการไก่เนื้ออยู่ตลอดเวลา บริษัทเอกชนจะจ้างเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อเป็นจำนวนมาก เนื้อไก่เป็นอาหารที่ให้โปรตีนแก่ร่างกาย มีราคาถูก นิยมนำมาประกอบอาหารรับประทานกันทั่วไป นอกจากนี้มูลไก่ยังสามารถทำปุ๋ยคอกได้เพราะมีธาตุอาหารสูง ในการเลี้ยงไก่เนื้อ ผู้เลี้ยงต้องตัดสินใจว่าจะเลี้ยงไก่เนื้อพันธุ์อะไร ขนาดของฟาร์มเท่าใด วางแผนในเรื่องของโรงเรือน เครื่องมืออุปกรณ์ ค่าแรงงาน ค่าน้ำ และค่าไฟ สำหรับบริษัทเอกชนที่ว่าจ้างจะทำหน้าที่ผลิตลูกไก่เนื้อ บริการอาหาร การให้วัคซีน การขนส่งหรือให้คำแนะนำต่าง ๆ ซึ่งบริษัทเอกชนที่ว่าจ้างจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องการเลี้ยงดู จนสามารถจำหน่ายได้ พร้อมให้ผลตอบแทนแก่ผู้เลี้ยงตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน | |||||
การเลี้ยงไก่เนื้อ สร้างโรงเรือนแบบหน้าจั่ว มุงด้วยแฝกขนาดกว้าง 14 เมตร ยาว 100 เมตร ต้องมีการถ่ายเทอากาศได้ดี ฝาโรงเรือนเป็นมุ้งตาข่ายเพื่อกันลม กันหนู และงูได้ ปรับพื้นอัดดินให้แน่นและเรียบ แล้วโรยปูนขาวเพื่อกันเชื้อโรค และแมลง ปูพื้นด้วยแกลบแล้วพ่นยาฆ่าเชื้อ พักเล้าไว้ประมาณ 10 วัน แล้วติดตั้งที่ให้อาหารและน้ำ นำไก่เนื้อเกรด A อายุ 1 วัน มาเลี้ยงในเล้ากก ควบคุมอุณหภูมิโดยใช้หลอดไฟ 100 แรงเทียนหรือจะใช้แก๊สอบ เพื่อให้ลูกไก่ได้รับความอบอุ่น เมื่อครบ 10 วัน ให้วัคซีนป้องกันโรคนิวคาสเซิ่น และควรให้ลูกไก่ได้รับโปรตีนไม่น้อย 21 % ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 สัปดาห์ เมื่อไก่อายุครบ 48-50 วัน น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 2.2 กิโลกรัม พยายามควบคุมไม่ให้ไก่ตายเกิน 5 % ผู้เลี้ยงจะได้ค่าเลี้ยงเป็นผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ การจัดจำหน่าย บริษัทเอกชนที่ว่าจ้างจะมารับซื้อไก่เนื้อที่ฟาร์ม เพื่อนำไปจำหน่ายต่อหรือทำการแปรรูป แล้วส่งขายต่อตามตลาดสดต่าง ๆ เคล็ดลับ การเลี้ยงไก่เนื้อให้คุณภาพดี ต้องรักษาความสะอาด การสุขาภิบาลและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม เพราะไก่จะเสี่ยงกับการเป็นโรคหวัดได้ง่าย ระวังอย่าให้เสียงดังรบกวนไก่เนื้อ เพราะอาจทำให้ไก่ตกใจและตายได้ | |||||
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น